ร้านของเราเบียร์วุ้น "Beer Wooon at ชัยภูมิ" ธุรกิจของเรา
วันอังคารที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2562
วันอังคารที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2560
ก้าวแรกกับธุรกิจ “ร้านของเราเบียร์วุ้น"
จุดเริ่มต้นธุรกิจร้านของเราเบียร์วุ้น แรกเริ่มเดิมทีเกิดขึ้นจากเราสองคน
(ผมและแฟน) ก่อนหน้าที่จะตัดสินใจทำธุรกิจร่วมกัน เราสองคนได้เป็นลูกจ้างหน่วยงานราชการแห่งหนึ่งเงินเดือนก็ประมาณไม่เกิน 15,000 บาท ซึ่งเป็นโครงการระยะสั้น ประมาณ 5 เดือน ผมและแฟนเข้าทำงานช่วงเดือนตุลาคม 2559 – เดือนกุมภาพันธ์ 2560
และโครงการนี้ก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เราสองคนได้พบกัน
ส่วนตัวผมก็ต้องขอกล่าวไว้ก่อนว่าก่อนที่ตัวผมเองจะมาเป็นลูกจ้างโครงการระยะสั้นนี้
ตัวผมเองทำงานบริษัทหรืองานโรงงานมาก่อนอยู่ที่ (นิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร) จังหวัดชลบุรี ผมทำงานเกี่ยวกับดูแลควบคุมการผลิตชิ้นส่วนรถยนต์
ส่วนแฟนผมเองก็ศึกษาพึ่งจบปริญญาตรีสาขาวิชาเทคโนโลยีการเกษตรด้านพืช ประมาณ 1 ปี ก่อนที่จะมาทำงานเป็นลูกจ้างโครงการระยะสั้นนี้พร้อมกัน
เราได้เจอกันรู้จักกันสักพักมาถึงช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ก็ได้ตัดสินใจคบกันเป็นแฟนก่อนที่จะหมดสัญญาจ้าง
พอเราได้สิ้นสุดสัญญาจ้างความคิดของผมตอนนั้นคือจะกลับไปทำงานที่ชลบุรี เพราะผมคิดว่าเงินติดตัวที่ผมมีอยู่มันคงเพียงพอที่จะไปตั้งตั้งตัวเริ่มหางานใหม่ได้ แต่ในใจลึกๆ
ตัวผมเองก็ไม่อยากจะห่างไกลกับแฟนสักเท่าไหร่
แต่มันก็จำเป็นเพราะผมคิดว่ามันคือทางเลือกในการประกอบอาชีพของตัวเองที่จะหาเงินและเริ่มต้นชีวิตใหม่
"เป็นภาพที่ทำให้ผมเกิดแรงบัลดาลใจ" |
จากนั้นด้วยการที่ผมเองเคยเปิดร้านของชำเมื่อปี
2555
ปีนั้นเป็นปีที่น้ำท่วมเปิดเป็นร้านเล็กๆ ที่บ้านผมเอง
ผมเลยตัดสินใจจากต้นทุนประสบการณ์เดิมในการทำธุรกิจแรกในชีวิตของผมคือร้านขายของ ชำ ผมก็เลยเลยตกลงกับแฟนว่าเราจะเปิดร้านเบียร์วุ้นกัน
โดยยึดคอนเซปต์ที่ผมวางไว้และได้อธิบายให้แฟนผมฟัง ตอนนั้นผมคิดแต่เพียงว่าผมจะวางแผนบริหารจัดการหรือเริ่มต้นยังงัยกับเงินลงทุนส่วนนี้
“หลักการทำธุรกิจของผมก็มีอยู่ว่าถ้าเราคิดที่จะทำธุรกิจขอเพียงแค่เรามีแรงบันดาลใจและกล้าที่จะลงมือทำ ไม่จำเป็นหรือขึ้นอยู่ว่าจะต้องมีเงินลงทุนที่มากถึงจะทำธุรกิจได้หรือว่าเงินลงทุนน้อยแล้วจะทำธุรกิจไม่ได้
แต่มันขึ้นอยู่ว่าเราจะจัดการกับเงินลงทุนที่เรามีอยู่ที่เราจะทำธุรกิจของเราให้มันสอดคล้องและให้เกิดความสมดุลกับธุรกิจของเราให้มากที่สุดเพราะมันคือสิ่งที่สำคัญที่สุกสำหรับผม” ชีวิตผมตอนนั้นบอกเลยว่าเหมือนถูกคาดหวังและกำลังจะเผชิญสู่โลกความเป็นจริงในการทำธุรกิจ
มากกว่าความฝันที่คิดอยากมีธุรกิจ แต่ผมต้องขอขอบคุณแฟนผม
ถ้าผมมีแต่ความฝันว่าอยากมีธุรกิจเป็นของตัวเองแต่ขาดซึ่งแรงผลักดันและแรงบัลดาลใจ
ผมก็คงไม่ได้มีโอกาสเริ่มต้นทำธุรกิจ แฟนผมคนนี้คือแรงผลักดันและแรงบัลดาลใจของผมที่ทำให้เป็นจุดเริ่มต้นในการทำธุรกิจแรกในชีวิต ต้องขอบคุณแฟนผมมากที่ให้อิสระทางความคิดและการวางแผนต่างๆ
ในการเริ่มต้นธุรกิจ ร้านของเราเบียร์วุ้น
ตู้แช่เบียร์วุ้น เงินลงทุนก้อนแรกของเราที่เราคิดว่าจะต้องมีเป็นอันดับแรกก็คือตู้แช่เบียร์วุ้น
(พระเอกของร้าน) ด้วยราคา 24,500
บาท ตอนนั้นเราซื้อตู้แช่มาเรายังไม่มีหน้าร้านด้วยซ้ำ555 หรือเอาง่ายๆ
ว่าไม่รู้ว่าจะไปขายที่ไหน ผมพึ่งรู้ว่าการเริ่มต้นทำธุรกิจใหม่ มันเหนื่อยมากๆๆๆๆๆๆ
เพราะตอนนั้นเราสองคนยังไม่มีระบบการจัดการอะไรมากมาย เราสองคนต้องวางระบบใหม่ทั้งหมด หรือพูดง่ายๆ
เริ่มจาก 0 นี่เอง ติดต่อนู้นนี่นั้น
แทบเรียกได้ว่าวิ่งซ้ายวิ่งขวากันเลยทีเดียว อะไรที่เหมือนจะง่ายกับเป็นเรื่องยาก
วันๆ ผมไม่คิดเรื่องอะไรในสมองมีแต่เรื่องธุรกิจของเรา
ห้องเช่า นี่ต้องขอบอกเลยว่าผมถึงกับท้อเหนื่อยใจมากๆๆๆ
เกือบทำให้ผม
คิดว่าทำไมมันถึงเจออุปสรรคและปัญหายากเย็นขนาดนี้ ห้องเช่าห้องแรกที่เราไปติดต่อก็คือตึกแถวตลาดถนนข้าวสวย (ตลาดขายผ้ามือสอง) ค่าห้องก็เดือน ล่ะ 5,000 บาท มัดจำอีก 10,000 บาท เงินส่วนนี้แฟนผมก็เป็นคนดูแล แต่ค่าห้องราคานี้ก็สูงอยู่พอสมควร เราจึงได้ตกลงทำสัญญาเข้าเช่าอยู่ เริ่มทำความสะอาดล้างห้องเช่าถึงกับเหนื่อยกันเลยทีเดียว ทยอยขนของเข้าเพื่อให้มองดูเป็นรูปเป็นร่าง จัดร้านนิดๆ หน่อยๆ ถ้าจะถามถึงทำเลห้องที่เช่าดีมั้ยบอกเลยว่า (ไม่)555 แต่หลายที่ที่ถามมามัดจำแพงมาก แล้วก็ไม่อยากเสียเวลาก็เลยตัดสินใจเลือกที่นี่ ผ่านไปได้หนึ่งอาทิตย์เราพร้อมที่จะเปิดปลายเดือนมีนาคม 2560 เราได้ฤกษ์เปิดร้าน 30 มีนาคม พอถึงวันที่ 28 มีนาคม เราจึงได้ไปดำเนินการจดทะเบียนเสียภาษี สุราและบุหรี่ เตรียมที่จะเปิดร้านวันที่ 30 มีนาคม แต่กับเกิดเรื่องที่ไม่น่าคาดคิดห้องเช่าที่เราเช่าอยู่เป็นพื้นที่สีแดงที่สรรพสามิตไม่ให้ขายสุรา ตอนนั้นเราขนของเข้าห้องไปเยอะมากๆๆๆ แต่เราสองคนก็ต้องทำใจได้แต่ยอมรับความเป็นจริง เราจึงตัดสินใจขอค่าเช่าและค่ามัดจำคืนแล้วเตรียมตัวย้ายของออก เหลืออีกแค่สองวันก็จะได้ฤกษ์เปิดร้าน แต่โชคดีมากที่เจ้าของห้องเช่าคืนเงินให้เราครบทุกบาท
คิดว่าทำไมมันถึงเจออุปสรรคและปัญหายากเย็นขนาดนี้ ห้องเช่าห้องแรกที่เราไปติดต่อก็คือตึกแถวตลาดถนนข้าวสวย (ตลาดขายผ้ามือสอง) ค่าห้องก็เดือน ล่ะ 5,000 บาท มัดจำอีก 10,000 บาท เงินส่วนนี้แฟนผมก็เป็นคนดูแล แต่ค่าห้องราคานี้ก็สูงอยู่พอสมควร เราจึงได้ตกลงทำสัญญาเข้าเช่าอยู่ เริ่มทำความสะอาดล้างห้องเช่าถึงกับเหนื่อยกันเลยทีเดียว ทยอยขนของเข้าเพื่อให้มองดูเป็นรูปเป็นร่าง จัดร้านนิดๆ หน่อยๆ ถ้าจะถามถึงทำเลห้องที่เช่าดีมั้ยบอกเลยว่า (ไม่)555 แต่หลายที่ที่ถามมามัดจำแพงมาก แล้วก็ไม่อยากเสียเวลาก็เลยตัดสินใจเลือกที่นี่ ผ่านไปได้หนึ่งอาทิตย์เราพร้อมที่จะเปิดปลายเดือนมีนาคม 2560 เราได้ฤกษ์เปิดร้าน 30 มีนาคม พอถึงวันที่ 28 มีนาคม เราจึงได้ไปดำเนินการจดทะเบียนเสียภาษี สุราและบุหรี่ เตรียมที่จะเปิดร้านวันที่ 30 มีนาคม แต่กับเกิดเรื่องที่ไม่น่าคาดคิดห้องเช่าที่เราเช่าอยู่เป็นพื้นที่สีแดงที่สรรพสามิตไม่ให้ขายสุรา ตอนนั้นเราขนของเข้าห้องไปเยอะมากๆๆๆ แต่เราสองคนก็ต้องทำใจได้แต่ยอมรับความเป็นจริง เราจึงตัดสินใจขอค่าเช่าและค่ามัดจำคืนแล้วเตรียมตัวย้ายของออก เหลืออีกแค่สองวันก็จะได้ฤกษ์เปิดร้าน แต่โชคดีมากที่เจ้าของห้องเช่าคืนเงินให้เราครบทุกบาท
ร้านของเราเบียร์วุ้น บนความโชคร้ายปนด้วยปัญหาอุปสรรคก็ยังมีความโชคดีอยู่บ้าง ฟ้าก็ไม่ได้ใจร้ายเสมอไป วันที่เราขับรถกลับจากสรรพสามิต เราก็ได้ขับผ่านห้องเช่าห้องหนึ่งซึ่งติดป้าย “ห้องว่างให้เช่า” ซึ่งห้องเช่านี้ก็ไม่ได้ห่างจากห้องเดิมมากนัก เราจึงได้ติดต่อกลับไปหาเจ้าของห้องเป็นความโชคดีมาก ที่ห้องนี้ยังว่างเราดีใจมากแถมราคาก็ถูกมาก ถูกกว่าห้องเดิมห้องเช่าใหม่ราคารวมค่ามัดจำราคาห่างกันตั้งเท่านึงถึงห้องเช่าจะไม่ได้ใหม่หรือสวยหรูอะไรมากนัก เราสองคนจึงได้ตกลงกันตัดสินใจเลือกห้องเช้าห้องนี้(ร้านที่เปิดปัจจุบัน) เช้าต่อมาวันที่ 29 มีนาคม 2560 เราได้กลับไปสรรพสามิตอีกครั้งเพื่อยื่นขอเสียภาษี แต่พนักงานสรรพสามิตบอกว่าไม่มั่นใจว่าห้องใหม่ที่เราเช่าอยู่จะขายได้หรือป่าวเพราะมันก่ำกึ่งพื้นที่สีแดง พอได้ยินความท้อทวีคูณ ทางสรรพสามิตบอกว่าพรุ่งนี้จะไปตรวจ ทั้งที่พรุ่งนี้ก็วันที่ 30 มีนาคม 2560 แล้ว พอเช้าวันที่ 30 มีนาคม 2560 ตื่นเช้ามาเริ่มเปิดห้องเช่าครั้งแรก เราทำความสะอาดรอเพื่อเตรียมตัวเปิดร้านและเตรียมขนของเข้าตอนเที่ยงวัน ตื่นตั้งแต่หกโมงเช้า ของเราทั้งหมดเตรียมพร้อมอยู่หน้าบ้านทั้งหมด สิ่งที่ลุ้นอยู่ในใจก็คือสรรพสามิตเมื่อไหร่จะมาตรวจว่าร้านของเราจะเปิดได้หรือป่าว แล้วเวลาก็สายไปทุกทีๆๆๆๆๆ พอถึงเวลาประมาณสี่โมงเช้ากว่าๆ สิ่งที่เราคอยและหวังไว้ก็มาถึงสรรพสามิตติดต่อมาว่าร้านของเราสามารถขายได้ ร้านของเราอยู่ในพื้นที่สีขาวและนี่ก็คือ จุดเริ่มต้นธุรกิจ “ร้านของเราเบียร์วุ้น”
"ร้านของเราเบียร์วุ้น" |
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)