วันอังคารที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2560

ก้าวแรกกับธุรกิจ “ร้านของเราเบียร์วุ้น"


จุดเริ่มต้นธุรกิจร้านของเราเบียร์วุ้น แรกเริ่มเดิมทีเกิดขึ้นจากเราสองคน (ผมและแฟน) ก่อนหน้าที่จะตัดสินใจทำธุรกิจร่วมกัน เราสองคนได้เป็นลูกจ้างหน่วยงานราชการแห่งหนึ่งเงินเดือนก็ประมาณไม่เกิน 15,000 บาท ซึ่งเป็นโครงการระยะสั้น ประมาณ 5 เดือน ผมและแฟนเข้าทำงานช่วงเดือนตุลาคม 2559 – เดือนกุมภาพันธ์ 2560 และโครงการนี้ก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เราสองคนได้พบกัน ส่วนตัวผมก็ต้องขอกล่าวไว้ก่อนว่าก่อนที่ตัวผมเองจะมาเป็นลูกจ้างโครงการระยะสั้นนี้ ตัวผมเองทำงานบริษัทหรืองานโรงงานมาก่อนอยู่ที่ (นิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร) จังหวัดชลบุรี ผมทำงานเกี่ยวกับดูแลควบคุมการผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ ส่วนแฟนผมเองก็ศึกษาพึ่งจบปริญญาตรีสาขาวิชาเทคโนโลยีการเกษตรด้านพืช ประมาณ 1 ปี ก่อนที่จะมาทำงานเป็นลูกจ้างโครงการระยะสั้นนี้พร้อมกัน เราได้เจอกันรู้จักกันสักพักมาถึงช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ก็ได้ตัดสินใจคบกันเป็นแฟนก่อนที่จะหมดสัญญาจ้าง พอเราได้สิ้นสุดสัญญาจ้างความคิดของผมตอนนั้นคือจะกลับไปทำงานที่ชลบุรี เพราะผมคิดว่าเงินติดตัวที่ผมมีอยู่มันคงเพียงพอที่จะไปตั้งตั้งตัวเริ่มหางานใหม่ได้ แต่ในใจลึกๆ ตัวผมเองก็ไม่อยากจะห่างไกลกับแฟนสักเท่าไหร่ แต่มันก็จำเป็นเพราะผมคิดว่ามันคือทางเลือกในการประกอบอาชีพของตัวเองที่จะหาเงินและเริ่มต้นชีวิตใหม่ 
"เป็นภาพที่ทำให้ผมเกิดแรงบัลดาลใจ"
แรงบันดาลใจ ใกล้จะหมดสัญญาจ้างอีกไม่กี่วันแฟนผมได้มีความคิดที่อยากทำธุรกิจในใจแฟนผมเองก็ไม่อยากให้ผมกลับไปทำงานที่ชลบุรีซักเท่าไหร่ เธอเลยพูดกับผมว่า “พี่ไม่ต้องไปทำงานถึงชลบุรีหรอกเรามาทำธุรกิจด้วยกันมั้ยพี่อยู่นี่พี่ก็สามารถหาเงินได้” ตอนนั้นผมรู้สึกสับสนมาก เพราะเงินทุนที่จะทำธุรกิจมันก็มีไม่มากพอที่จะทำอะไรได้ อย่างมากก็ได้แค่ไปตั้งตัวเริ่มทำงานใหม่ที่ชลบุรี (20,000) ตอนนั้นยังมีเงินที่จะลงทุนไม่ถึงด้วยซ้ำ555555 สิ่งสำคัญที่สุดผมตอบตกลงทั้งที่ยังไม่ได้วางแผนอะไรเลยว่าจะทำอะไร แล้วอีกอย่างแฟนผมก็พึ่งจบยังไม่รู้ว่าจะอยากทำจริงๆ หรือป่าว แต่ผมก็รู้สึกดีใจอยู่ลึกๆ ว่า แฟนผมเองอายุแค่นี้มีความคิดที่จะมีธุรกิจเป็นของตัวเองมากกว่าการอยากเป็นพนักงานเงินเดือน ความคิดของเธอตอนนั้นเชื่อมั่นในตัวผมมากที่คิดอยากจะทำธุรกิจด้วย ส่วนตัวผมเองก็มีความคิดที่อยากทำธุรกิจซักอย่างอยู่แล้วเพียงแค่ยังไม่มีโอกาส (เพราะผมก็เชื่อว่าหลายคนก็อยากมีธุรกิจเป็นของตัวเอง)   พอหมดสัญญาจ้างจากการเป็นลูกจ้างหน่วยงานราชการตามโครงการผมก็ได้เริ่มคิดและวางแผนต้องขอบอกเลยว่าตอนนั้นผมใช้ความคิดเยอะมากๆๆๆๆ ว่าจะทำธุรกิจอะไรดี เพราะการเริ่มต้นธุรกิจของเราเริ่มต้นจากเงินลงทุนที่ไม่มากนัก เราได้ตกลงกันโดยจะร่วมลงทุนโดยใช้ทุนหลักประมาณ คนล่ะ 20,000 บาท ในการเริ่มต้น แต่แฟนผมจะเริ่มต้นด้วยทุนที่พร้อมกว่า แฟนผมเลยออกมากว่าและเป็นทุนหลักก่อนตอนแรกและการช่วยเหลือจากครอบครัวแฟนผมเอง เพราะผมไม่พร้อมเรื่องเงินเท่าไหร่ในการลงทุน
จากนั้นด้วยการที่ผมเองเคยเปิดร้านของชำเมื่อปี 2555 ปีนั้นเป็นปีที่น้ำท่วมเปิดเป็นร้านเล็กๆ ที่บ้านผมเอง ผมเลยตัดสินใจจากต้นทุนประสบการณ์เดิมในการทำธุรกิจแรกในชีวิตของผมคือร้านขายของ ชำ ผมก็เลยเลยตกลงกับแฟนว่าเราจะเปิดร้านเบียร์วุ้นกัน โดยยึดคอนเซปต์ที่ผมวางไว้และได้อธิบายให้แฟนผมฟัง ตอนนั้นผมคิดแต่เพียงว่าผมจะวางแผนบริหารจัดการหรือเริ่มต้นยังงัยกับเงินลงทุนส่วนนี้ “หลักการทำธุรกิจของผมก็มีอยู่ว่าถ้าเราคิดที่จะทำธุรกิจขอเพียงแค่เรามีแรงบันดาลใจและกล้าที่จะลงมือทำ ไม่จำเป็นหรือขึ้นอยู่ว่าจะต้องมีเงินลงทุนที่มากถึงจะทำธุรกิจได้หรือว่าเงินลงทุนน้อยแล้วจะทำธุรกิจไม่ได้  แต่มันขึ้นอยู่ว่าเราจะจัดการกับเงินลงทุนที่เรามีอยู่ที่เราจะทำธุรกิจของเราให้มันสอดคล้องและให้เกิดความสมดุลกับธุรกิจของเราให้มากที่สุดเพราะมันคือสิ่งที่สำคัญที่สุกสำหรับผม”  ชีวิตผมตอนนั้นบอกเลยว่าเหมือนถูกคาดหวังและกำลังจะเผชิญสู่โลกความเป็นจริงในการทำธุรกิจ มากกว่าความฝันที่คิดอยากมีธุรกิจ แต่ผมต้องขอขอบคุณแฟนผม ถ้าผมมีแต่ความฝันว่าอยากมีธุรกิจเป็นของตัวเองแต่ขาดซึ่งแรงผลักดันและแรงบัลดาลใจ ผมก็คงไม่ได้มีโอกาสเริ่มต้นทำธุรกิจ แฟนผมคนนี้คือแรงผลักดันและแรงบัลดาลใจของผมที่ทำให้เป็นจุดเริ่มต้นในการทำธุรกิจแรกในชีวิต  ต้องขอบคุณแฟนผมมากที่ให้อิสระทางความคิดและการวางแผนต่างๆ ในการเริ่มต้นธุรกิจ ร้านของเราเบียร์วุ้น

ตู้แช่เบียร์วุ้น เงินลงทุนก้อนแรกของเราที่เราคิดว่าจะต้องมีเป็นอันดับแรกก็คือตู้แช่เบียร์วุ้น (พระเอกของร้าน) ด้วยราคา 24,500 บาท ตอนนั้นเราซื้อตู้แช่มาเรายังไม่มีหน้าร้านด้วยซ้ำ555  หรือเอาง่ายๆ ว่าไม่รู้ว่าจะไปขายที่ไหน ผมพึ่งรู้ว่าการเริ่มต้นทำธุรกิจใหม่ มันเหนื่อยมากๆๆๆๆๆๆ เพราะตอนนั้นเราสองคนยังไม่มีระบบการจัดการอะไรมากมาย เราสองคนต้องวางระบบใหม่ทั้งหมด หรือพูดง่ายๆ เริ่มจาก 0 นี่เอง ติดต่อนู้นนี่นั้น แทบเรียกได้ว่าวิ่งซ้ายวิ่งขวากันเลยทีเดียว อะไรที่เหมือนจะง่ายกับเป็นเรื่องยาก วันๆ ผมไม่คิดเรื่องอะไรในสมองมีแต่เรื่องธุรกิจของเรา
ห้องเช่า นี่ต้องขอบอกเลยว่าผมถึงกับท้อเหนื่อยใจมากๆๆๆ เกือบทำให้ผม
คิดว่าทำไมมันถึงเจออุปสรรคและปัญหายากเย็นขนาดนี้ ห้องเช่าห้องแรกที่เราไปติดต่อก็คือตึกแถวตลาดถนนข้าวสวย (ตลาดขายผ้ามือสอง) ค่าห้องก็เดือน ล่ะ 5,000 บาท มัดจำอีก 10,000 บาท เงินส่วนนี้แฟนผมก็เป็นคนดูแล แต่ค่าห้องราคานี้ก็สูงอยู่พอสมควร เราจึงได้ตกลงทำสัญญาเข้าเช่าอยู่ เริ่มทำความสะอาดล้างห้องเช่าถึงกับเหนื่อยกันเลยทีเดียว ทยอยขนของเข้าเพื่อให้มองดูเป็นรูปเป็นร่าง จัดร้านนิดๆ หน่อยๆ ถ้าจะถามถึงทำเลห้องที่เช่าดีมั้ยบอกเลยว่า (ไม่)555 แต่หลายที่ที่ถามมามัดจำแพงมาก แล้วก็ไม่อยากเสียเวลาก็เลยตัดสินใจเลือกที่นี่ ผ่านไปได้หนึ่งอาทิตย์เราพร้อมที่จะเปิดปลายเดือนมีนาคม 2560 เราได้ฤกษ์เปิดร้าน 30 มีนาคม พอถึงวันที่ 28 มีนาคม เราจึงได้ไปดำเนินการจดทะเบียนเสียภาษี สุราและบุหรี่ เตรียมที่จะเปิดร้านวันที่ 30 มีนาคม แต่กับเกิดเรื่องที่ไม่น่าคาดคิดห้องเช่าที่เราเช่าอยู่เป็นพื้นที่สีแดงที่สรรพสามิตไม่ให้ขายสุรา ตอนนั้นเราขนของเข้าห้องไปเยอะมากๆๆๆ แต่เราสองคนก็ต้องทำใจได้แต่ยอมรับความเป็นจริง เราจึงตัดสินใจขอค่าเช่าและค่ามัดจำคืนแล้วเตรียมตัวย้ายของออก เหลืออีกแค่สองวันก็จะได้ฤกษ์เปิดร้าน แต่โชคดีมากที่เจ้าของห้องเช่าคืนเงินให้เราครบทุกบาท



ร้านของเราเบียร์วุ้น    บนความโชคร้ายปนด้วยปัญหาอุปสรรคก็ยังมีความโชคดีอยู่บ้าง ฟ้าก็ไม่ได้ใจร้ายเสมอไป วันที่เราขับรถกลับจากสรรพสามิต เราก็ได้ขับผ่านห้องเช่าห้องหนึ่งซึ่งติดป้าย “ห้องว่างให้เช่า” ซึ่งห้องเช่านี้ก็ไม่ได้ห่างจากห้องเดิมมากนัก เราจึงได้ติดต่อกลับไปหาเจ้าของห้องเป็นความโชคดีมาก ที่ห้องนี้ยังว่างเราดีใจมากแถมราคาก็ถูกมาก ถูกกว่าห้องเดิมห้องเช่าใหม่ราคารวมค่ามัดจำราคาห่างกันตั้งเท่านึงถึงห้องเช่าจะไม่ได้ใหม่หรือสวยหรูอะไรมากนัก เราสองคนจึงได้ตกลงกันตัดสินใจเลือกห้องเช้าห้องนี้(ร้านที่เปิดปัจจุบัน) เช้าต่อมาวันที่ 29 มีนาคม 2560 เราได้กลับไปสรรพสามิตอีกครั้งเพื่อยื่นขอเสียภาษี แต่พนักงานสรรพสามิตบอกว่าไม่มั่นใจว่าห้องใหม่ที่เราเช่าอยู่จะขายได้หรือป่าวเพราะมันก่ำกึ่งพื้นที่สีแดง พอได้ยินความท้อทวีคูณ ทางสรรพสามิตบอกว่าพรุ่งนี้จะไปตรวจ ทั้งที่พรุ่งนี้ก็วันที่ 30 มีนาคม 2560 แล้ว พอเช้าวันที่ 30 มีนาคม 2560 ตื่นเช้ามาเริ่มเปิดห้องเช่าครั้งแรก เราทำความสะอาดรอเพื่อเตรียมตัวเปิดร้านและเตรียมขนของเข้าตอนเที่ยงวัน ตื่นตั้งแต่หกโมงเช้า ของเราทั้งหมดเตรียมพร้อมอยู่หน้าบ้านทั้งหมด สิ่งที่ลุ้นอยู่ในใจก็คือสรรพสามิตเมื่อไหร่จะมาตรวจว่าร้านของเราจะเปิดได้หรือป่าว แล้วเวลาก็สายไปทุกทีๆๆๆๆๆ พอถึงเวลาประมาณสี่โมงเช้ากว่าๆ สิ่งที่เราคอยและหวังไว้ก็มาถึงสรรพสามิตติดต่อมาว่าร้านของเราสามารถขายได้ ร้านของเราอยู่ในพื้นที่สีขาวและนี่ก็คือ จุดเริ่มต้นธุรกิจ ร้านของเราเบียร์วุ้น”



"ร้านของเราเบียร์วุ้น"